2023

การสกัดสารระเหยจากพืชมีหลายวิธีด้วยกัน การสกัดบางวิธีก็ให้น้ำมันหอมระเหย (True essential oil) การสกัดบางวิธีก็ได้สารระเหยที่สกัดจากพืช (Aromatic extracts) ซึ่งเราไม่ถือว่าเป็นน้ำมันหอมระเหย  น้ำมันหอมระเหยจะได้จากการกลั่นจากไอน้ำ (Distillation) และการบีบ (Expression) เท่านั้น ในงานสุวคนธบำบัด (Aromatherapy) แบบดั้งเดิมจะใช้เฉพาะน้ำมันหอมระเหย (True essential oil) เท่านั้น แต่ในระยะหลังการนำเอาสารสกัดจากพืช (Aromatic extracts) มาใช้ใน Aromatherapy ได้รับการยอมรับมากขึ้นโดยลำดับ ดูในรูปจะพบความแตกต่างในการสกัดสารจากพืชที่เป็นน้ำมันหอมระเหย (Essential oil) และ สารระเหยจากพืช (Aromatic extracts) การสกัดน้ำมันหอมระเหยมีหลายวิธี คือ 1. การกลั่น (Distillation) 1.1) การกลั่นด้วยน้ำ (Water Distillation) วิธีนี้ทำโดยนำพืชที่เราต้องการสกัด ใส่ลงไปในภาชนะ ซึ่งในภาชนะนั้นมักจะมีตะแกรงสำหรับวางพืชชนิดที่เราต้องการกลั่น จากนั้นก็เติมน้ำสะอาดน้ำจนท่วมพืชที่ต้องการกลั่น แล้วต้มน้ำจนเดือดกลายเป็นไอน้ำ การที่ต้องมีตะแกรงก็เพื่อป้องกันไม่ให้ความร้อนถูกกับพืชโดยตรง เพราะน้ำมันหอมระเหยที่ได้อาจจะมีกลิ่นไหม้ผสมได้ น้ำมันหอมระเหยและน้ำ ในพืชชนิดนั้นๆ ระเหยขึ้นไป จากนั้นไอระเหยก็จะถูกทำให้เย็นลงเพื่อให้กลับมาเป็นของเหลวอีกครั้ง ซึ่งในขั้นตอนนี้ […]

การสกัดน้ำมันหอมระเหย Read More »

เมื่อจมูกเราได้กลิ่นน้ำมันหอมระเหย บางชนิดจะหอมไม่นาน ร่างกายจะรับรู้ได้ไว เช่น ยูคาลิปตัส ตะไคร้หอม เปปเปอร์มินท์ และกลิ่นเหล่านี้ก็จะจางไปเร็ว เช่นกัน ส่วนน้ำมันที่กลั่นมาจากดอกไม้จะหอมสดชื่น ได้นานกว่าเช่น ลาเวนเดอร์ โรสแมรี่ เจอราเนียม หากเราทำการผสมน้ำมัน 2 อย่างขึ้นไป เมื่อเวลาผ่านไป กลิ่นที่เรารับรู้ก็จะเปลี่ยนไปตามระยะเวลาที่น้ำมันระเหย ในยุคศตวรรษที่ 19 นี้เอง Mr.Septimus Piesse ชาวฝรั่งเศส เป็นผู้ให้คำนิยามถึงการแบ่งประเภทน้ำมันหอมระเหยตามระยะเวลาที่ระเหยว่าเป็น Essential Oil Notes แบ่งออกเป็น 3 ระดับได้แก่ Top Notes , Middle Notes และ Base Notes ซึ่งมาจากการผสมน้ำมันหอมระเหยที่เข้ากันได้ดีหลาย ๆ อย่างเข้าด้วยกัน เมื่อเวลาผ่านไป กลิ่นของน้ำมันที่ระเหยเร็วกว่า ค่อย ๆ ระเหยออกไป และ คงกลิ่นที่ยังระเหยไม่หมด เปรียบเสมือน โน๊ตดนตรีที่ผสมผสานกันอย่างไพเราะกลมกลืน น้ำมันหอมระเหยที่ระเหย หมดไปภายในเวลา 1

Essential Oil Note คืออะไร? Read More »

Clove-Leaf-Bud

ในการขนส่งหรือส่งออก ปลาไปในที่ไกลๆ หรือไปต่างประเทศ มีแนวโน้มที่จะใช้สารจากธรรมชาติมากกว่าสารเคมี เพื่อให้ปลาสลบคงความสด(ยังมีชีวิตเมื่อถึงปลายทาง) รวมทั้งมีข้อตกลงใหม่ทางการค้าที่บังคับให้ใช้สารจากธรรมชาติ เนื่องจากคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้บริโภคมากขึ้น ในส่วนของปลาสวยงามก็นิยมใช้นำมันกานพลูทำให้ปลาสงบ ลดความบอบช้ำของปลาเมื่อต้องส่งปลาสวยงามออกไปต่างประเทศ อีกทั้งน้ำมันกานพลูยังเป็นสารธรรมชาติ ไม่ตกค้างในตัวปลาและปลอดภัยสำหรับปลาสวยงามเมื่อใช้อย่างถูกวิธี นอกจากนี้น้ำมันกานพลูยังใช้ทำให้ปลาสวยงามสลบเพื่อการผ่าตัดปลาได้ด้วย น้ำมันกานพลูเป็นน้ำมันหอมระเหยชนิดหนึ่งที่สกัดจาก ดอกตูมแห้งและใบของต้นกานพลู (Syzygium aromaticum) น้ำมันกานพลูมักจะถูกนำไปใช้ในอุตสาหกรรมน้ำหอม อาหาร ทำยาสลบปลาธรรมชาติ และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับฟันและช่องปาก เช่น ยาสีฟัน น้ำยาบ้วนปากและยาชาที่ทันตแพทย์ใช้กัน น้ำมันกานพลูมีส่วนประกอบหลักที่สำคัญคือ Eugenol ประมาณ 49-87%, β-caryohyllene ประมาณ 4-21%, Eugenyl acetate ประมาณ 0.5-21% ปัจจุบันมีนักเพาะเลี้ยงปลาสวยงามจำนวนมาก นำน้ำมันกานพลูมาใช้เป็นยาสลบปลาก่อนการผ่าตัด หรือทำ ให้ปลาสงบลงก่อนการย้ายปลาหรือการขนส่งในระยะทางไกล ทดแทนสารเคมีที่เป็นยาสลบ เนื่องจากเป็นสารจากธรรมชาติและมีผลข้างเคียงต่อปลาน้อยมาก ปลาสามารถฟื้นตัวเร็วและอัตราการตายต่ำมาก หลังจากที่ฟื้นแล้ว ถ้าใช้อย่างถูกต้อง สารที่ทำให้ปลาสลบ ก็คือ Eugenol ที่มีอยู่ใน น้ำมันกานพลูนั่นเอง โดยทั่วไปน้ำมันกานพลูมี 2 ชนิด จะถูกสกัดมาจาก 1. ดอกตูมแห้งของกานพลู ซึ่งจะมี

น้ำมันกานพลู (Clove Oil) ยาสลบปลา จากธรรมชาติ Read More »

Cleanser ธรรมชาติ สำหรับทำความสะอาดผิวหน้า สัปดาห์ละ 1 -2 ครั้ง ด้วยส่วนผสมของ  น้ำมันหอมระเหยเลมอน หรือ น้ำมันหอมระเหยมะนาวฝรั่งมีวิตะมินซี ช่วยฟื้นฟูสภาพผิว ทำความสะอาดผิวได้ล้ำลึก ส่วนผสม ข้าวโอ๊ต                           1     ถ้วยตวง น้ำมันโจโจบา                   2     ช้อนชา ( 10 ml.) น้ำผึ้ง                               1     ช้อนโต๊ะ  ( 15 ml. ) น้ำมันหอมระเหยเลมอน     12   หยด วิธีทำ -ผสม ข้าวโอ๊ต น้ำมันโจโจบา น้ำผึ้ง ในชามเซรามิค คนให้เข้าเป็นเนื้อเดียวกัน เติมน้ำมันหอมระเหยเลมอน คนให้เข้ากัน เก็บใส่กระปุกไว้ในตู้เย็น การนำไปใช้

Lemon Essential Oil Cleanser Read More »

Almond

น้ำมันสวีทอัลมอนด์มีสารสำคัญช่วยบำรุงผิวได้แก่ วิตะมิน A ,B1 ,B2 ,B6 และ E ช่วยให้ผิวมีน้ำนวลและมีความชุ่มชื้น  นิยมนำมาเป็นน้ำมันนวดโดยตรง หรือ เป็นน้ำมันหลักและมีน้ำมันพืช (Carrier Oil) อื่น ๆ ผสมด้วย คุณสมบัติที่หนืดกำลังดีและไม่ซึมซับเร็วเกินไป  และมีกลิ่นหอมหวานอ่อน ๆ เหมาะกับการนวดร่างกายเพื่อการผ่อนคลาย น้ำมันสวีทอัลมอนด์  เหมาะสำหรับ -นวดทารก เพื่อคลายเครียด  หากนวดโดยไม่ทาน้ำมัน ลูกน้อยอาจจะรู้สึกเจ็บเนื่องจากผิวบอบบางเกินไป  (คุณแม่ไม่ควรผสมน้ำมันหอมระเหย  เนื่องจากน้ำมันหอมระเหยมีความเข้มข้นสูง ทำให้ฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง ) – นวดร่างกายเพื่อการผ่อนคลายใช้น้ำมันสวีทอัลมอนด์อย่างเดียว หรือ ผสมกับน้ำมันอื่น ๆ เช่น โจโจ้บา เมล็ดองุ่น   มะกอก และผสมน้ำมันหอมระเหยที่ชื่นชอบ -นวดมือ นวดเท้า และ เล็บ เพื่อให้มีความอ่อนนุ่ม ไม่กระด้าง -ลูบผม หรือ หมักผม ช่วยทำให้ผมนุ่มสลวยมีน้ำหนัก -เช็ดเครื่องสำอางค์ – มาสค์พอกหน้าธรรมชาติ  ส่วนผสม

Sweet Almond Oil สำหรับทุกคน Read More »

Jojoba

น้ำมันโจโจบา (โฮโฮบา) มีลักษณะเป็นกึ่งของเหลวและแวกซ์ น้ำมันชนิดนี้เป็นน้ำมันที่นิยมใช้กันมากที่สุดในอุตสาหกรรมเครื่องสำอางและ ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว บางครั้งใช้เป็นน้ำมันบำรุงผิวหน้าเพราะมีสารธรรมชาติอย่างที่เหมือนกันกับ Collagen ที่อยู่บนผิวหนังเรา อีกทั้งยังเป็น moisturizer ชั้น ดีสำหรับทุกสภาพผิว ทำให้สิวเสี้ยนหลุดออกและขจัดสิ่งสกปรกที่รูขุมขน จึงเหมาะสำหรับคนที่เป็นสิวและผิวหน้ามัน น้ำมันโจโจบานี้จึงเหมาะอย่างยิ่งที่จะทำเป็นแฟเชียลออยล์และครีมล้างหน้า อีกทั้งน้ำมันนี้ยังมีประสิทธิภาพบำรุงเส้นผมและป้องกันผมร่วงได้อีกด้วย คุณสมบัติที่ดีของน้ำมันชนิดนี้   -ช่วยลดเลือนเนื้อลายและรอยเหี่ยวย่น -มีส่วนช่วยให้รอยแผลเป็นจางลง -ช่วยให้ผิวสามารถกักเก็บน้ำหล่อเลี้ยงได้ยาวนานขึ้น -ไม่ทำลายผิว -ทำให้สิวเสี้ยนหลุดออกและขจัดสิ่งสกปรกที่รูขุมขน จึงเหมาะสำหรับคนที่เป็นสิวและผิวหน้ามัน และปรับสภาพความเป็นกรดด่างบนผิวได้ดี -ปกป้องความชุ่มชื้นบนเส้นผมได้ดีเยี่ยม -ให้ความรู้สึกไม่เหนอะหนะผิว -กระจายตัวและดูดซึมได้ดีบนผิว -ไม่ระคายเคืองและเหมาะกับผิวแพ้ง่าย ในร่างกายคนเราสามารถผลิตน้ำมันที่มีลักษณะคล้ายโจโจบาได้เองตามธรรมชาติ แต่ปัจจัยที่ทำให้น้ำมันใต้ผิวลดลงขึ้นอยู่กับอายุ อากาศ สิ่งแวดล้อม มลภาวะ หรือแม้แต่ความเครียดก็มีส่วนทำให้น้ำมันใต้ผิวลดลงเราจึงต้องหาตัวช่วยที่ จะทำให้ผิวของเราชุ่มชื่นอยู่ตลอดเวลา -เมื่อใช้ทาผิวจะช่วยให้ผิวเนียนนุ่มขึ้น เนื่องจากโจโจบามีวิตามินอีที่ช่วยรักษาความชุ่มชื่นให้กับผิว และยังช่วยลดเลือนริ้วรอยได้อีกด้วย -โจโจบายังช่วยลดอาการอักเสบของผิวหนัง ช่วยให้เส้นผมแข็งแรง ช่วยขจัดรังแค ลดอาการคันศีรษะ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ -ใน น้ำมันโจโจบา ยังมีแร่ธาตุทองแดง โครเมียม ไอโอดีน ซิลิคอน และสังกะสี นอกจากนั้นยังมีวิตามินอี และบีรวม ซึ่งล้วนแต่สำคัญสำหรับผิวพรรณ เส้นผม และเล็บ

น้ำมันโจโจบ้า เพื่อความอ่อนเยาว์ Read More »

Shopping Cart
Scroll to Top